วิญญาณและชีวิตหลังความตาย [The Human Soul and Life after Death]
วิญญาณและชีวิตหลังความตาย [The Human Soul and Life after Death]
วิญญาณและชีวิตหลังความตาย [The Human Soul and Life after Death]
อนุสารครบรอบสองร้อยปีวันประสูติของพระบาฮาอุลลาห์ [200th Anniversary of the Birth of Bahá’u’lláh Booklet in Thai]
ธรรมจารึกถึงกษัตริย์ (สุเรเย่ มูลุค) (โดยพระบาฮาอุลลาห์) ขอสงวนสิทธิ์ ฉบับแปลอย่างไม่เป็นทางการ พระองค์คือพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ นี้คือธรรมจารึกจากคนรับใช้ที่มีนามว่าฮุสเซนในอาณาจักรแห่งนามที่ลิขิตถึงกษัตริย์ทั้งหลายของโลก เพื่อว่าพวกเขาจะได้อ่านธรรมจารึกนี้อย่างเปิดใจ ค้นพบความลึกลับของอำนาจลิขิตของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นพวกที่เข้าใจความหมายในธรรมจารึก เพื่อว่าพวกเขาจะละทิ้งทุกสิ่งที่ตนครอบครอง หันมายังที่พำนักอันวิสุทธิ์ และเข้ามาใกล้พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ไม่มีเปรียบปาน
คัดจากธรรมลิขิต ของ พระบาฮาอุลลาห์ พระบ๊อบ พระอับดุลบาฮา ธรรมลิขิตบาไฮ สำหรับ สมาธิประจำวัน Bahá’í Holy Writings for Daily Meditation Dharma Likit Bahá’í Sumrub Samathi Prajumwun Published by Spiritual Assembly of the Bahá’ís of Thailand 1995 จัดพิมพ์โดย ธรรมสภาบาไฮแห่งประเทศไทย
Translations 1. คีตาบีอัคดัส (คัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด) คือคัมภีร์แม่บทของศาสนาบาไฮ ซึ่งเป็นกฎบัตรของอารยธรรมโลกในอนาคต ที่จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาและยืนยาวไปตลอดยุคศาสนาบาไฮเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งพันปี ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีนี้นับจากกาเนิดศาสนาบาไฮในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 สังคมมนุษย์ได้มีและจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ จนปัจจุบันนี้ยากที่จะคาดการณ์ได้ว่าแค่อีกยี่สิบปีข้างหน้า โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จึงเป็นที่น่าพิศวงว่าท่ามกลางวิกฤติการณ์และความสับสนมากมายหลายอย่างของโลกที่ขัดแย้งกับตัวเองที่เป็นอยู่ อารยธรรมดังกล่าวจะก่อตัวขึ้นมาอย่างไร และพระบาฮาอุลลาห์ลิขิตกฎและบทบัญญัติ และสถาบันที่จะนากฎและบทบัญญัติเหล่านี้มาบังคับใช้อย่างไร ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของโลกที่จะเปลี่ยนแปลงไปมากมายสุดจินตนาการในช่วงเวลาหนึ่งพันปีนี้ ในกระบวนการก่อตัวของอารยธรรมอารยธรรมขั้นสูงสุดบนโลกนี้ดังที่กล่าวมา กฎและบทบัญญัติในคัมภีร์เล่มนี้จะค่อยๆ เป็นที่เข้าใจ ยอมรับและนามาปฏิบัติโดยชนชาติต่างๆ ซึ่งจะได้เห็น “การประสานสามัคคีประชาชนทั้งหมดของโลกในความมุ่งหมายสากลและศาสนาเดียวกัน” และพวกเขาจะถือว่า “โลกนี้เป็นเพียงประเทศเดียว และมนุษยชาติเป็นเพียงพลเมืองของประเทศเดียวกัน” 2. คีตาบีอีคาน (คัมภีร์แห่งความมั่นใจ) เป็นคัมภีร์ที่สาคัญ
แม้ว่าอารยธรรมทางวัตถุเป็นวิธีการหนึ่งสาหรับความก้าวหน้าของโลกของมนุษยชาติ กระนั้น จนกว่าอารยธรรมนี้จะรวมกับอารยธรรมสวรรค์ ความสุขของมนุษยชาติจะไม่บรรลุผลดังปรารถนา… อารยธรรมทางวัตถุเป็นเสมือนครอบแก้ว อารยธรรมสวรรค์คือแสงสว่างเอง และครอบแก้วทีป่ ราศจาก แสงสว่างนั้นมืด อารยธรรมทางวัตถุเป็นเสมือนร่างกาย ทีไ่ ม่ว่าจะงดงาม สง่า และสวยอย่างไร ก็ไม่มี ชีวิต อารยธรรมสวรรค์เป็นเสมือนวิญญาณ และร่างกายได้ชีวิตจากวิญญาณ ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายก็ กลายเป็นศพ Selections from the Writings of Abdu’l-Baha, p.303 พระอับดุลบาฮา คานา ดังที่แสดงนัยไว้ด้วยชื่อ “อารยธรรมสวรรค์” หนังสือเล่มนี้มองไกลไปกว่าอารยธรรมทางวัตถุ ซึ่งจะเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนและให้ความสงบสุขอย่างแท้จริงไม่ได้หากขาดฐานที่ตั้งอันมั่นคงของธรรมะ ในธรรมลิขิตนี้พระอับดุลบาฮาทรงอรรถาธิบายลักษณะทางธรรมของอารยธรรมที่แท้จริง ซึ่งเป็นรากที่ต้องเพาะให้งอกขึ้นมาจากจิตใจของมนุษย์ และจนกว่ารากธรรมะนี้จะได้รับการหล่อเลี้ยงให้เติบโตแข็งแรง มนุษย์ยังคงด้อยสมรรถภาพในการสร้างอารยธรรมสวรรค์ และอารยธรรมทางวัตถุโดยลาพังจะเป็นภัย
สภายุติธรรมสากล ศูนย์กลางบาไฮแห่งโลก 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 เรียน บาไฮศาสนิกชนทั่วโลก เพื่อนบาไฮที่รัก คีตาบีอัคดัส คัมภีร์ที่ท่านศาสนภิบาลของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าพรรณนาไว้ด้วยพจน์อันสูงส่งว่า “เป็นคลังที่ประเมินค่ามิได้ที่เก็บรักษาความชัชวาลที่สุดที่เรืองมาจากปัญญาของพระบาฮาอุลลาห์ไว้ตลอดกาล เป็นกฎบัตรของระบบโลกของพระองค์ เป็นคัมภีร์หลักของกฎของพระองค์ เป็นสัญญาณนามาก่อนพระปฏิญญาของพระองค์ เป็นผลงานสาคัญที่บรรจุคาเคี่ยวเข็ญที่ประเสริฐสุด คาประกาศที่มีน้าหนักที่สุด และคาพยากรณ์ที่เป็นลางจานวนหนึ่งของพระองค์ และได้รับการเปิดเผยระหว่างที่ความทุกข์ทรมานของพระองค์มาถึงขีดสุด ขณะที่ผู้ปกครองทั้งหลายของโลกละทิ้งพระองค์” เรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะประกาศว่า คัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับคาอธิบายประกอบอย่างล้นหลาม จะเปิดตัวต่อชุมชนของบาฮาในวันนอร์รูซ
ศูนย์กลางบาไฮแห่งโลก เมษายน ค.ศ. 2002 เรียน ผู้นาศาสนาทั้งหลายของโลก มรดกอันยั่งยืนที่ตกทอดมาจากคริสต์ศตวรรษที่ยี่สิบคือ ประชาชนทั้งหลายของโลกเริ่มมองตนเองว่าเป็นสมาชิกของเชื้อชาติเดียวกัน และพิภพนี้คือบ้านเกิดร่วมกันของเชื้อชาตินี้ แม้ว่าจะมีความรุนแรงและความขัดแย้งกันไม่หยุดหย่อนจนทาใหห้ขอบ้้ามืดมน อคติทั้งหลายึ่งครั้งหน่งดูเหมือนว่าเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ใหนสายพันธุ์มนุษย์ กาลังทลายลงมาทุกแห่งหน ที่ทลายลงมาด้วยกันคือรั้วกั้นทั้งหลายที่แบ่งแยกครอบครัวของมนุษย์ออกเป็นคนละพวกตามวัฒนธรรม ชาติพันธุ์หรือสัญชาติ มาเป็นเวลานาน การที่การเปลี่ยนแปลงขั้นมูลฐานนี้สามารถเกิดข้นภายใหนเวลาอันสั้น กล่าวคือเพียงชั่วข้ามคืนเมื่อเทียบกับระยะเวลาของประวัติศาสตร์ แสดงนัยถ งศักยภาพที่ยิ่งใหหญ่สาหรับอนาคต
บทนา วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.1992 เป็นวันครบรอบหนึ่งศตวรรษของการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระบาฮา อุลลาห์ วิสัยทัศน์ของพระองค์เกี่ยวกับมนุษยชาติเป็นประชาชนเดียวกัน และโลกเป็นปิติภูมิเดียวกัน ที่ แถลงเป็นครั้งแรกกว่าหนึ่งร้อยปี ที่แล้วต่อผู้นา ทั้งหลายของโลก และถูกพับไปทันใดไม่รับพิจารณา มา บัดนี้ได้กลายเป็นจุดรวมแห่งความหวัง ผลที่ตามมาอย่างหนีไม่พ้นคือการล่มสลายของศีลธรรมและระบบ สังคม ที่การประกาศเดียวกันนี้คาดการณ์ไว้อย่างชัดเจนน่าเกรงขาม โอกาสนี้สนับสนุนให้มีการตีพิมพ์คา นา โดยย่อเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของพระบาฮาอุลลาห์ การ ตระเตรียมคา นา นี้กระทา โดยคา ขอของสภายุติธรรมสากล ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ของภารกิจระดับโลกที่เริ่มต้นจาก เหตุการณ์ต่างๆ เมื่อศตวรรษที่แล้ว คา นา นี้เสนอมุมมองด้วยความรู้สึกมั่นใจที่บาไฮศาสนิกชนทั่วโลกตรอง ดูอนาคตของโลกและมนุษยชาติ